ขั้นตอนการแจ้งเคลม Everydayinsure.com

เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขอให้ท่านดำเนินการตามคำแนะนำต่อไปนี้ ทั้งนี้เพื่อให้การจัดการอุบัติเหตุเป็นไปด้วยความรวดเร็ว

1. โทรศัพท์แจ้งอุบัติเหตุที่ศูนย์รับแจ้งเหตุ 24 ชั่วโมง ของทางบริษัทประกันภัย ท่านได้ทำกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ เบอร์ติดต่อบริษัทประกันภัย สามารถ ตรวจสอบได้ที่นี่ กรณีแจ้งเป็นหลักฐานให้จดหมายเลขรับแจ้ง ไว้เพื่อความสะดวกในการติดต่อภายหลัง
2. ขั้นตอนการแจ้งอุบัติเหตุ
   • แจ้งรายละเอียดของรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุ
   • ยี่ห้อรถ ทะเบียนรถ สีรถ
   • หมายเลขกรมธรรม์ประกันภัย
   • ชื่อผู้ขับขี่พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้
   • ตำแหน่ง สถานที่เกิดเหตุให้ (แจ้งชื่อถนน ช่วงถนน จุดที่รถจอดอยู่ รวมทั้งจุดสังเกตใกล้เคียง)
   • ลักษณะการเกิดเหตุ
   • เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อเป็นที่สังเกตที่เด่นชัดและความปลอดภัยบนท้องถนน
   • กรณีมีการเคลื่อนย้ายรถจากจุดเกิดเหตุก่อนเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัย จะไปถึง กรุณาโทรศัพท์แจ้งให้ทางบริษัทประกันภัยทราบ รับทราบอีกครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยที่ท่านติดต่อไปสามารถไปยังสถานที่นัดหมายใหม่ได้ถูกต้อง
3. การปฏิบัติตัวในที่เกิดเหตุ
   • กรณีรถประกันเป็นฝ่ายถูก
     1. จดทะเบียนรถ ชื่อ ที่อยู่ของคู่กรณี ถ่ายรูปภาพจุดเกิดเหตุว่าทางเราเป็นฝ่ายถูก เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับแจ้งอุบัติเหตุต่อบริษัทประกันภัย
        1. กรณีทรัพย์สินบนรถเสียหาย ต้องลงบันทึกประจำวันทุกครั้ง เพราะท่านต้องเรียกร้องความเสียหายกับคู่กรณีเองโดยตรง
        2. กรณีที่ท่านทำประกันภัยประเภท 3 ซึ่งคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อบุคคลภายนอก บริษัทประกันภัยจะส่งเจ้าหน้าที่ไปให้บริการแก่ท่านในสถานที่เกิดเหตุ หรือสถานีตำรวจ (หากจำเป็น) ส่วนการติดตามเรียกร้องขั้นตอนต่อไป ท่านต้องเป็นผู้ดำเนินการเอง
   • กรณีรถประกันเป็นฝ่ายผิด
     1. ให้ชื่อ ที่อยู่ของท่านแก่คู่กรณี (หากมีการร้องขอ) และแยกรถเข้าไปอยู่ในบริเวณที่ไม่กีดขวางการจราจรภายหลังจากการยอมรับผิดแล้ว ทั้งนี้ไม่ควรลงนามในเอกสารใดๆ ให้แก่คู่กรณี จนกว่าเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ จะไปถึง
     2. กรุณาอย่าหลบหนี เพราะท่านอาจไม่ใช่ผู้กระทำผิด การหลบหนีอาจเป็นเหตุทำให้ต้องโทษในคดีอาญาเพิ่มขึ้น
   • กรณีไม่แน่ใจว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด
     1. อย่าทำการเคลื่อนย้ายรถจากจุดเกิดเหตุ นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำเครื่องหมายการเกิดเหตุ และสั่งให้เคลื่อนย้ายรถ ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ (ถ้าจำเป็น)
   • กรณีมีผู้บาดเจ็บ/เสียชีวิต
     1. ไม่ว่าจะกรณีที่เป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด รีบนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงทันที
     2. อย่าดำเนินการตกลงค่าเสียหายใดๆ จนกว่าเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยจะไปถึง ซึ่งจะเป็นผู้ให้คำแนะนำแก่ท่าน ทั้งนี้กรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และเป็นความผิดทางอาญา ท่านสามารถปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยได้
     3. โดยผู้บาดเจ็บจะต้องใช้สิทธิเบิกตามกรมธรรม์ประกันภัย พ.ร.บ. ก่อน
     4. ถ้ามีการสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล กรุณาเก็บใบเสร็จรับเงินไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง
   • กรณีรถประกันถูกชน แล้วคู่กรณีหลบหนี
     1. ให้แจ้งความต่อสถานีตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ โดยระบุรายละเอียดของรถคู่กรณีให้มากที่สุด (ทะเบียน/สี/ยี่ห้อ) เพื่อแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีเท่านั้นไม่ใช่เพื่อเป็นหลักฐาน ยกเว้นกรณีที่ไม่ทราบทะเบียนรถคู่กรณี
   • กรณีรถถูกยึด
     1. กรณีรถของท่านถูกยึดไว้เพื่อตรวจสภาพที่สถานีตำรวจ ควรให้ร้อยเวรเจ้าของเรื่องตรวจสอบสิ่งของมีค่าภายในรถ และลงบันทึกประจำวันด้วย (ไม่ควรทิ้งสิ่งของมีค่าใดๆ ไว้กับรถ)
   • กรณีสถานที่เกิดเหตุเป็นช่องจราจรคับขันหรือเร่งด่วน สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ เช่น ทางโค้ง ช่องทางด่วน ทางลงสะพาน ขอแนะนำให้เคลื่อนย้ายไปรอเจ้าหน้าที่ในจุดที่ปลอดภัยในกรณีที่ตกลงกันได้
4. กรณีรถหาย
   • รีบแจ้งสถานีตำรวจท้องที่และศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.) โทร. 0-2354-6182 ทันทีพร้อมแจ้งรายละเอียดที่จำเป็นคือ ทะเบียน สี หมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวถัง สถานที่ และวันเวลาที่หาย
   • รีบจัดส่งเอกสารจำเป็นที่บริษัทฯ เรียกจากท่านให้เรียบร้อย เพื่อบริษัทประกันภัย จะได้ดำเนินการตรวจสอบ และชดใช้ค่าสินไหมให้ท่านโดยเร็ว
   • หากท่านทราบเบาะแสหรือร่องรอยรถของท่าน โปรดแจ้งบริษัทประกันภัยทันที และบริษัทประกันภัยจะเก็บข้อมูลของท่านไว้เป็นความลับ
5. เมื่อเจ้าหน้าที่สำรวจภัยเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุและปฏิบัติงานเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่สำรวจภัยจะออก ใบเคลม (ใบรายการความเสียหาย) ให้แก่ท่าน

หมายเหตุ

1. กรณีไม่สามารถติดต่อบริษัทประกันภัยได้ช่วงเกิดอุบัติเหตุ อาจดำเนินการ โดย
   • นัดหมายกับคู่กรณีภายหลัง
   • ทำบันทึกยอมรับผิดให้คู่กรณีติดต่อบริษัทฯ หลังจากท่านได้แจ้งอุบัติเหตุครั้งนี้ให้
   • แลกแบบฟอร์ม “ชนแล้วแยกแลกใบเคลม” ต่อจากนั้นรีบติดต่อเจ้าหน้าที่รับแจ้งอุบัติเหตุเพื่อลงนามรับผิดชอบคู่กรณี
2. การซ่อมรถประกัน
   • บริษัทประกันภัย จะจัดซ่อมรถของท่านคืนสู่สภาพปกติที่อู่ที่ทางบริษัทประกันภัยที่ท่านได้ทำประกันภัยไว้ได้คัดเลือกไว้ (อู่ในเครือบริษัทประกันภัย) หากท่านประสงค์จัดส่งรถที่อู่นอกเครือบริษัทประกันภัย ที่ท่านเลือกเอง โปรดแจ้งความประสงค์ให้ทางบริษัทประกันภัยที่จะต้องรับผิดชอบค่าสินไหมรับทราบก่อนล่วงหน้า เพื่อพิจารณาประเมินอัตราซ่อม หรือที่เรียกว่าการคุมราคา
   • โดยปกติบริษัทประกันภัย จะพิจารณาเปลี่ยนอะไหล่ให้ใหม่ ในกรณีที่บริษัทประกันภัย ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่สามารถจัดซ่อมอะไหล่ชิ้นนั้นให้กลับสู่สภาพเดิมได้ โดยคุณภาพของอะไหล่จะเป็นคุณภาพเดิมหรือเทียบเท่าก่อนที่จะเกิดความเสียหาย
   • ก่อนส่งมอบรถให้แก่อู่ควรตรวจสอบสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ภายในรถ และให้อู่ทำบันทึกรายการรับทราบทุกครั้ง ไม่ควรทิ้งสิ่งของมีค่าใดๆ ไว้กับรถ
   • ณ วันที่ตรวจรับรถที่ซ่อมแล้วเสร็จ ควรตรวจสอบผลการซ่อมอย่างละเอียด ควรตรวจสอบในที่แสงสว่างเพียงพอ หากพบว่าการรายการซ่อมที่ไม่ได้มาตรฐาน ทางผู้เอาประกันภัยไม่ควรลงนามรับรถ และแจ้งให้บริษัทประกันภัยรับทราบทันที เพื่อดำเนินการประสานงานกับทางอู่ต่อไป
   • ท่านมีสิทธิ์ตรวจสอบรายการซ่อม/ เปลี่ยนจากอู่ในเครือได้ตลอดเวลา หากพบว่าอู่ในเครือซ่อมรถล่าช้ากว่ากำหนด โปรดแจ้งบริษัทฯ รับทราบทันที
   • กรณีที่ท่านต้องรับผิดชอบต่อค่าเสียหายส่วนแรก อู่ในเครือบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้เก็บเงินส่วนค่าเสียหายส่วนแรกดังกล่าวจากท่าน
3. หากท่านไม่ได้รับความสะดวก หรือมีปัญหาใดๆ จากการรับบริการจากบริษัทฯ กรุณาติดต่อ ศูนย์รับข้อร้องเรียน โทร. 02-514-3214-6 ในเวลาทำการ

คำแนะนำกรณีท่านจัดทำเฉพาะประกันภัย พ.ร.บ. ผู้ประสบภัยจากรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ

1. นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
2. โรงพยาบาลสามารถรับมอบอำนาจจากผู้ประสบภัย เพื่อเบิกค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกันภัย
3. การขอรับค่าเสียหาย ผู้ประสบภัยจะแจ้งขอรับจากบริษัทประกันภัย เอง หรือจะมอบอำนาจให้สถาน พยาบาล/โรงพยาบาลเป็นผู้รับแทนได้
4. ค่าเสียหายเบื้องต้น รับได้ภายใน 7 วันนับจากวันที่ร้องขอ (เอกสารถูกต้องและครบถ้วน)
5. ค่าเสียหายส่วนเกินเบื้องต้น รับได้ภายใน 15 วันนับจากวันที่ร้องขอ (เอกสารถูกต้องและครบถ้วน)
6. ผู้ประสบภัยจากรถที่เป็นผู้ขับขี่และเป็นฝ่ายผิดจะได้รับความคุ้มครองเฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น